รีวิวศัลยกรรมโครงหน้า By คุณน้ำผึ้ง

บอกลาขาหมูได้ง่ายๆ รีวิวดูดไขมันหน้าท้อง,ต้นขา
December 21, 2017
เสริมหน้าอกเพิ่มความมั่นใจ!! ให้กับสาวแบนราบ
January 19, 2018

รีวิวศัลยกรรมโครงหน้า By คุณน้ำผึ้ง

สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อน้ำผึ้ง พอดีได้มีโอกาสไปขึ้นเขียงเล็กๆน้อยที่แดนกิมจิอันเลื่องชื่อด้านศัลยกรรมความสวยความงามเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เพื่อแบ่งปันรายละเอียดแต่ละขั้นตอนไว้สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลหรือลังเลกันอยู่นะคะ... อาจจะเขียนเยอะหน่อยแต่อยากให้อ่านกันนะคะ
รายการที่ทำมีทั้งหมด 4 รายการ
-ลดโหนก
-ตัดกราม
-เติมไขมันหน้า
-ดูดไขมันแก้มและเหนียง
เท้าความนิดนึงนะคะ ....ว่าทำไมถึงเลือกไปทำถึงเกาหลีทั้งๆที่ไทยก็มีหมอที่ชำนาญด้านนี้เหมือนกันเนื่องจากว่าการศัลยกรรมทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก ศัลยกรรมเล็กๆไปจนถึงใหญ่ถ้าพลาดมาแล้วเราก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้ เพราะฉะนั้นอย่าเห็นแก่ของถูกหรือโปรโมชั่นต่างๆนะคะต้องหาข้อมูลให้มั่นใจก่อน อันดับแรกก็เริ่มหาข้อมูลก่อนเลยคะจริงๆเล็งไว้หลายที่เลยคะในไทย แต่ยิ่งหาข้อมูลมากก็ยิ่งเจอความผิดพลาดมาก รวมไปถึงอาการข้างเคียงหลังจากผ่าตัดด้วยค่ะ แต่ละเคสก็มีอาการไม่เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่าหลังจากหาข้อมูลในไทยมาสักพักแล้ว (ก็ไม่สักพักนะประมาณ 1 ปีได้5555) หาจนท้อแล้วแหละจนได้ตัดสินใจลองหาข้อมูลในประเทศเกาหลีดูบ้าง หาอยู่หลายที่มากจนได้ไปเจอ โรงพยาบาลจิวเวลรี่นี่แหละแล้วมันก็บังเอิญกับที่ทางโรงพยาบาลมีออฟฟิศอยู่ที่ไทยใน กทม ตรงอโศกนี่เอง ไหนๆก็ไหนๆ ลองไปปรึกษาดูหน่อยแล้วกัน (ประมาณว่าไหนดูสิว่ารวมๆแล้ว หน้าฉันเนี่ยค่าเสียหายมันจะสักเท่าไหร่กัน) ไปค่ะซิสไปประเมิณราคากัน!!
พอไปถึงที่ออฟฟิศย่านอโศกออฟฟิศจะตั้งอยู่ที่ตึก westin grand ชั้น 7 ค่ะ ช้ันเดียวกับ Lobby ของโรงแรมเลย
(แอบถ่ารูปมาบอกพิกัดเพื่อสาวๆอยากไปปรึกษาดูนะคะ)
พอเราเข้าไปในออฟฟิศเราก็จะเจอพี่ไบรท์กับพี่ปุ๊กค่ะ พี่สองคนนี้จะเป็นฝ่ายประสานงานของไทยของโรงพยาบาลจิวเวลรี่ค่ะ ไปที่นี่ไม่ต้องกลัวโดนบวกเพิ่มเลยนะคะเพราะว่าที่นี่ไม่ใช่เอเจนซี่ราคาที่นี่จึงเท่ากับราคาของทางโรงพยาบาลที่เกาหลีแน่นอน บรรยากาศด้านในก็ไม่มีอะไรพิเศษ เหมือนสำนักงานทั่วไปมีรีวิวของลูกค้าให้เปิดดูเป็นแรงบันดาลใจก็ว่ากันไปคะ
ให้ดูรูปก่อนน้ำผึ้งก่อนนะคะว่าเป็นยังไง (จะได้เห็นภาพด้วย555) พอถึงเวลาปรึกษา เราก็ได้เข้าปรึกษากับพี่ปุ๊กนะคะ ช่วงที่ปรึกษาเนี่ยทางพี่เขาก็จะถามเรานะคะว่าไม่มั่นใจส่วนไหนเอ่ยอยากปรับแต่งตรงไหนคะ เราก็แจ้งไปค่ะว่าอยากทำจมูกกับตา อยากได้ทรงจมูกเชิดๆ ตาแบ้วๆเหมือนสาวเกาหลีและอยากเหลาโหนกออกด้วย ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยทำศัลยกรรมส่วนไหนของหน้ามาเลยยกเว้นแค่ตาทำมาได้สัก 2 ปีแล้วแต่ชั้นตาที่ทำมาค่อนข้างเล็กจึงอยากจะแก้ไขส่วนนี้ด้วย หลังจากแจ้งความต้องการไปเรียบร้อยทางพี่ปุ๊กก็ตอบกลับมาเลยว่าพี่ไม่แนะนำให้ทำตากับจมูกนะคะ ของเดิมที่มีอยู่ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่พี่อยากจะแนะนำให้ แก้ไขโครงหน้าแทนค่ะ ด้วยความที่หน้าเราตอบทำให้โหนกแก้มทั้ง 2 ข้างสูงขึ้นมาจนเห็นได้ชัด รวมไปถึงกรามด้านขวาที่ใหญ่กว่าด้านซ้ายแนะนำให้ทำแค่ 2 อย่างนี้ก็พอแล้วค่ะ
อะไรที่ดีๆอยู่แล้วทางเราไม่แนะนำให้ไปยุ่งกับมันนะคะ (นี่ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่ชอบโรงพยาบาลนี้ไม่มียัดเยียดอันไหนควรทำก็ทำอันไหนดีอยู่แล้วเขาก็ไม่แนะนำให้ทำออกแนวห้ามเลยด้วยซ้ำ ดี้ดีชอบ)
แต่ที่ต้องดูดไขมันแก้มและเหนียงด้วยเพราะว่าในกรณีที่เรากรอโหนกออกไปจะทำให้เนื้อที่เคยเกาะบริเวณโหนกห้อยลงจึงจำเป็นต้องดูดไขมันบริเวณนี้ออกป้องกันเนื้อบริเวณแก้มที่จะห้อยลงมานะคะ และด้วยความที่หน้าเราตอบทางพี่ปุ๊กเลยแนะนำให้ฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าให้ดูละมุนเพิ่มด้วย รวมแล้วทั้งหมดมี 4 รายการที่ต้องแก้ไข
หลังจากได้ราคารายละเอียดมาแล้วก็ถึงเวลากลับมาคิด แล้วเช็คเงินในกระเป๋า 555555เอาจริงๆ ราคาที่โน่นพอๆกับที่ไทยเลยแหละและหลังจากหารายละเอียดมาสักพักแล้วบวกกับที่เกาหลีจะมีเทคนิคพิเศษที่ทำให้ฟื้นตัวเร็วกว่าที่ไทย
โอ้ยย !!!! มันดีอ่าค่ะซิสมันน่าไปจริงๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่นานไหนๆก็หาข้อมูลมานานแล้ว ไปเถอะอยากสวยแล้ว ตกลงกับตัวเองเรียนร้อยก็ทักไปจองคิวแพทย์กับพี่ปุ๊กทันที
ขั้นตอนการเตรียมตัว และอุปกรณ์ที่ควรเตรียมก่อนผ่าตัด
1.ช้อนชาเล็กด้ามยาวๆ
2.เสื้อผ้าตามหน้าฤดูกาลนั้นๆ และคอกว้างใส่ในวันผ่าตัด และในวันแรกๆ
3.โจ๊กซองสำหรับคนทำโครงหน้าเพื่อทานอะไรไม่ได้
4.ยาประจำตัว หากมีโรคประจำตัว
5.ยาแก้เจ็บคอ แก้ไอมีเสมหะ
*งดอาหารเสริมวิตามินสองอาทิตย์ก่อนผ่าตัด
*ห้ามทาสีเล็บ
วันแรกที่ไปถึงเกาหลีก็ดึกแล้วประมาณเที่ยงคืนได้ก็เข้าที่พักเก็บของตามระเบียบเตรียมตรวจร่างกายในวันถัดไป ขั้นตอนนี้ยังไม่ต้องอดน้ำอาหารนะคะ (ถึงแล้วยิ้มสู้)
ถึงวันตรวจร่างกายแล้วจ้า ขั้นตอนนี้ง่ายๆเลยค่ะ วัดความดัน คลื่นหัวใจ ct สแกน รวมไปถึงพูดคุยกับคุณหมอคร่าวๆอีกทีค่ะ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาตรวจประมาณ 1 ชม.นะคะ ตรวจเสร็จกลับบ้านได้เลยค่ะ
หน้าก็จะเก๊กๆประมานนี้หน่อยๆค่ะ 5555
(นี่คือชุดไปตรวจร่างกาย555)
มาถึงวันผ่าตัดแล้วนะคะ เราได้คิวเข้าห้องผ่าตัดช่วง 10.00 ลืมบอกไปว่า ก่อนผ่าตัดงดน้ำงดอาหาร8ชม.นะคะ ถามว่าตื่นเต้นก็มีหน่อยๆคะแต่บรรยากาศที่โรงพยาบาลรวมไปถึงหน้าตาที่เป๊ะปังของพยาบาลแต่ละคนมันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย คิดแค่ว่าคนอื่นผ่านไปได้เราก็ต้องผ่านไปได้ เราต้องสู้ค่ะซิส!!!!!
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดก็เปลี่ยนชุดของโรงพยาบาลที่พี่พยาบาลคนสวยจัดเตรียมไว้ให้(หน้าตาพนักงานที่นี่คือละมุนทุกคนจริงๆ)
เปลี่ยนชุดเสร็จเพื่อไม่ให้มีเวลาว่างคิดมาก เดินเข้าไปรอในห้องผ่าตัดเลยดีกว่า เข้าไปช่วง 10.00 กว่าจะฟื้นรู้สึกตัวอีกทีก็ประมาณ 16.00 ได้ค่ะ
หลังออกจากห้องผ่าตัดก็จะอึนๆหน่อยๆ ถ้าถามว่าเจ็บไหมตอบได้เลยว่าไม่เจ็บเลยค่ะแค่รู้สึกเพลียๆ เจ็บคอเล็กน้อยขอนอนพักผ่อนดีกว่า
(หลังจากออกห้องผ่าตัดทันที สภาพก็เป็นแบบที่เห็นเลยค่ะ)
นอนพักที่โรงพยาบาล 1 คืน เช็คอาการต่างๆวันรุ่งขึ้นก็กลับที่พักได้เลยค่ะ
ตอนแรกคิดว่าจะเจ็บกว่านี้ พอมาได้ทำจริงๆเห้ย เราก็ไหวอยู่นะวันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลมาก็เดินเล่นได้ตามปกติเลยค่ะ เดี๋ยวรวมรูปแต่ละวันให้นะคะจะมีช่วงที่บวมแบบหนักๆเลยช่วง วันที่ 3-5 ได้ค่ะ อันนี้คือพีคสุดแต่พอหลังจากบวมสุดร่างกายมันก็ค่อยๆปรับคืนสภาพนะคะไม่ต้องเครียดนะนี่บอกตัวเองแบบนี้ทุกวัน 555
ช่วงที่พักฟื้นเตร็ดเตร่อยู่เกาหลีประมาณ 10วันนั้น ช่วงเช้าก็เข้าไปล้างแผลบวกกับเลเซอร์ลดบวมที่โรงพยาบาลทุกวันเลยค่ะ
หลังจากเสร็จจากการล้างแผลแล้วก็ใช้เวลาไปกับการช็อปปิ้ง เดินเที่ยวเล่น เพราะพี่ปุ๊กจะย้ำมากๆเลยค่ะว่าอย่านั่งๆนอนๆ ยิ่งเดินเยอะ ยิ่งลดบวมไวเพราะฉะนั้นเดินซิคะ รออะไรเน้อ~
สังเกตจากรูปนะคะ ร่างกายจะฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วความบวมของหน้าก็จะลดลงไปตามลำดับค่ะ ต้องขอบคุณเลเซอร์ลดบวมของทางโรงพยาบาลที่ช่วยให้หน้ากลับมาเข้ารูปได้ไวกว่าปกติ สำหรับแผลหลังศัลยกรรมจะมีอยู่ 3 ที่นะคะ คือในปาก 4 จุดแผลในปากจะใช้ไหมละลายนะคะ ตรงนี้จะหลุดออกไปเองไม่ต้องตัดค่ะ ส่วนอีกที่เป็นบริเวณขมับทั้ง 2 ข้างค่ะ ส่วนนี้จะตัดไหมหลังจากวันที่ทำ 15 วันนะคะแต่ด้วยความที่เราอยู่เกาหลีแค่ 11 วันเราเลยต้องกลับไปตัดไหมส่วนนี้ที่ไทยค่ะ ส่วนบริเวณสุดท้ายอยู่ตรงหลังหูส่วนนี้เป็นบริเวณที่คุณหมอเลือกใช้เพื่อเอาเลือดคั่งออกในวันผ่าตัดค่ะ บริเวณนี้ตัดไหมตั้งแต่วันที่ 5 หลังจากผ่าตัดเสร็จเลยค่ะ
นี่คือวันก่อนกลับไทยนะคะ ผ่านมา 10วัน
(โดยรวมก็ยุบลงเร็วมากๆแต่ส่วนของดั้งจมูกนั้นก็ยังไม่มาต้องให้เวลากับมันจริงๆนะคะ จุดๆนี้)
หลังจากกลับมาถึงไทยหน้าก็ยังคงยุบลงเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้ทำเลเซอร์ลดบวมเหมือนที่เกาหลี
เห็นการลดบวมได้อย่างชัดเจนจากรูปนี้ค่ะ ห่างกันเพียงแค่ 1 วันเท่านั้นเอง (ช่วงนี้ก็อย่าส่องกระจกบ่อยนะคะ เดี๋ยวจิตตกเปล่าๆ 5555)
หลังจากที่รีวิวไปคร่าวๆแล้วเรามาดูปัจจุบัน และ ภาพ before after กันดีกว่าค่ะ

นี่คือรูปก่อนทำนะคะ มาให้ดูอีกรอบ (แอบเซ็กซี่นิดๆ555) ปกติจะสวยมุมเดียวค่ะเพราะว่ากรามด้านขวาใหญ่เลยต้องปัดผมไปทางขวาค่ะแต่ถ้าปัดไปทางซ้ายก็จะเจอกรามใหญ่โตแบบรูปนี้ค่ะ รูปนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลย ทั้งความโหนกและความเหลี่ยมของกรามที่สำคัญเหลี่ยมข้างเดียวอีกต่างหาก TT
มาค่ะมาดู after หลังจากผ่านมาประมาณ 1 เดือน
โครงหน้าที่ได้ก็จะมีความละมุนขึ้นกว่าเดิม ถ้าถามว่าหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมไหมตัวน้ำผึ้งเองคิดว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเพราะเราทำแค่กรอบหน้าทำให้องศาหน้าเท่ากันและกรอส่วนที่เป็นโหนกออกเพื่อให้ใบหน้าดูละมุนขึ้น หน้าดูเด็กลงจากการเติมไขมันทำให้หน้ามีมิติมากขึ้น แก้มที่เคยตอบมากทำให้หน้าดูมีอายุก็เพิ่มแก้มหน่อยๆให้สมวัยไม่เยอะและน้อยจนเกินไปโดยรวมตอนนี้ก็รู้สึกโอเคมากๆเลย แต่ก็ยังมีส่วนที่ยังคงบวมๆอยู่ช่วงแก้ม คุณหมอแจ้งมาว่าจะเข้าที่ประมาณ 4 เดือนขึ้นไปและเข้าที่จริงๆเลยเมื่อครบ 8 เดือนนะคะ แล้วยังไงน้ำผึ้งจะมาคอยอัพเดตรูปหน้าให้เพื่อนๆดูกันใหม่เมื่อครบ 6 เดือนอีกทีนึงนะคะ
ส่วนใครคนไหนที่กำลังมองหาการทำศัลยกรรมโครงหน้าแบบที่น้ำผึ้งได้ไปทำมาหวังว่ารีวิวนี้จะช่วยเป็นหนึ่งในการตัดสินใจของใครหลายๆคนได้นะคะ
สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อศัลยกรรมโดยตรงกับทางเพจเฟสบุ๊ค Jewelry Plastic Surgery Thailand ของรพ.จิวเวลรี่ได้เลยค่ะ หรือโทร 081-572-4124 ,081-555-7727, 02-207-8333
(ยังคงสามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงน้ำผึ้งได้ที่ facebook ชื่อ Supitcha Boonkumphoung นะคะ)
ติดตามสาระศัลยกรรมและรีวิวอัปเดตลูกค้าไทยได้ที่ Facebook/jewelrypsthailand (อัปเดตทุกวัน)